ความทรงจำในอดีต กับ ความสุขในปัจจุบัน
เมื่อใกล้ครบรอบ 100 ปีแห่งการสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในวันที่ 26 มีนาคมที่จะถึงนี้
เราก็เริ่มเห็นปรากฎการณ์การเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เป็นรูปความหลังครั้งวัยหวานของบรรดาคนจุฬาฯ พร้อมทั้งกรอบสัญลักษณ์จุฬาฯ 100 ปี นอกจากนั้นหลายๆ ท่านยังถือโอกาสนำรูปในอดีตสมัยยังเรียนอยู่ในรั้วจามจุรี มาลงย้อนอดีตกันในสื่อสังคมออนไลน์กันเต็มไปหมด
รูปส่วนใหญ่ที่ลงนั้นมักจะเป็นรูปในอดีตสมัยเรียนหนังสือในรั้วมหาวิทยาลัย หรือ รูปถ่ายในชุดครุยที่แสดงถึงความสำเร็จในการศึกษา นอกจากนี้ยังมีรูปที่ถ่ายกับครอบครัว เพื่อน พี่น้อง แฟน (ในขณะนั้น) ซึ่งไม่ว่าจะเป็นรูปในลักษณะใด กว่าร้อยละ 90 ของรูปที่ลงก็เป็นรูปในสมัยอดีตทั้งสิ้น บางท่านที่อดีตนั้นยาวไกลหน่อยก็ยังสามารถหารูปสมัยกว่า 40-50 ปีที่แล้วมาลงกันได้
ปรากฎการณ์ดังกล่าวทำให้อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงทำให้คนจุฬาฯ ทั้งหลายพากันสรรหารูปเก่าๆ สมัยอดีตมาลงกันเต็มไปหมด สาเหตุสำคัญก็คงหนีไม่พ้นการนับถอยหลังเข้าสู่วันที่จะครบรอบ 100 ปีแห่งการสถาปนามหาวิทยาลัย และการย้อนระลึกถึง “พระคุณของแหล่งเรียนมา” แต่ก็น่าจะมีสาเหตุอื่นอีกที่ทำให้เกิดปรากฎการณ์ถวิลหาความหลังในครั้งนี้
ลองไปค้นข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของการคิดถึงหรือระลึกถึงอดีต (Nostalgia) นั้นก็พบว่า ในอดีตนั้นเชื่อกันว่า การคิดถึงอดีตนั้นเป็นความผิดปกติชนิดหนึ่ง โดยคำว่า Nostalgia เป็นคำศัพท์ที่เกิดขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 17 โดยแพทย์ชาวสวิส โดยมาจากทหารที่มีความผิดปกติทางร่างกายและจิตใจเนื่องจากคิดถึงบ้าน
อย่างไรก็ดีในปัจจุบันก็พบว่าการคิดถึงอดีตไม่ได้เป็นความผิดปกติของร่างกายและจิตใจอีกต่อไป แถมยังมีการพบว่าคนส่วนใหญ่มักจะคิดหรือระลึกถึงความหลังในอดีตประมาณสัปดาห์ละครั้ง และมากกว่าครึ่งของคนที่สำรวจจะคิดถึงอดีตสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง (ลองสำรวจตัวท่านผู้อ่านเองนะครับว่าคิดถึงอดีตกันสัปดาห์ละกี่ครั้ง)
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่ชี้ว่าเรื่องที่ทำให้เราย้อนอดีตได้ง่ายที่สุดมีอยู่สองเรื่อง นั้นคือเหตุการณ์ที่มีความสำคัญในอดีต และ เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่ใกล้ชิดกับเรา ดังนั้นเลยไม่แปลกใจนะครับว่าทำไม ปรากฎการณ์ CU100 ที่ลงกันเต็มสื่อสังคมออนไลน์นั้น ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นรูปงานรับปริญญา หรือ รูปที่ถ่ายกับ ครอบครัว เพื่อนสนิท หรือ แฟน
การคิดถึงอดีตนั้นมีข้อดีต่อทางด้านจิตใจมากมาย เนื่องจากอดีตที่เรานึกถึงนั้นมักจะเป็นความทรงจำที่ดี มีความสุข ดังนั้นเมื่อนึกถึงอดีต ก็มักจะทำให้อารมณ์ดี ทำให้รู้สึกดีกับชีวิต ทำให้เกิดความเชื่อมโยงทางสังคม ช่วยลดความเครียด และทำให้เกิดความรู้สึกที่ดีต่ออนาคต สรุปคือความทรงจำดีๆ จากในอดีตช่วยทำให้รู้สึกดีขึ้นในปัจจุบัน และยิ่งถ้าความทรงจำดังกล่าวเกี่ยวข้องกับบุคคลที่ใกล้ชิดด้วย ก็จะยิ่งทำให้รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าและความสำคัญ
อย่างไรก็ดียังมีอีกมุมมองหนึ่งที่ระบุว่าการที่คิดถึงความหลังเยอะๆ นั้นสาเหตุหนึ่งก็มาจากความโดดเดี่ยวหรือความเศร้า และการนึกถึงอดีตก็เป็นกลไกการป้องกันตนเองวิธีหนึ่งที่ทำให้คลายจากความเศร้าหรือความโดดเดี่ยวได้
ธุรกิจและนักการตลาดได้ใช้ประโยชน์จากอดีตกันมานานพอสมควรแล้ว โดยพยายามนำเสนอสินค้าหรือบริการด้วยรูปแบบหรือวิธีการที่ทำให้ลูกค้าระลึกถึงอดีต และถ้าสามารถทำให้ลูกค้านึกถึงอดีตที่ดีๆ ได้ ลูกค้าก็พร้อมที่จะเสียเงินแพงขึ้นสำหรับสินค้าและบริการที่นำอดีตอันน่าจดจำกลับมา
ดังนั้นอย่าลืมกลับไปหาและแชร์ภาพในอดีตอันน่าจดจำกันนะครับ จะทำให้เกิดความสุข ความอบอุ่นในปัจจุบัน และ ทำให้บุคคลรอบข้างรู้สึกดีไปด้วย